|
เขียนโดย JJ_Sathon
นายบุญเติม โนนจันทร์
ผู้บริหาร′หจก.พูนเจริญพาณิชย์′
และบริษัท เติมคอร์ปอเรชั่น (2008) จำกัด
กรณีเรื่องถุงยังชีพที่ ปภ.จัดซื้อจาก หจก.พูนเจริญฯ 60,000 ถุง วงเงิน 48 ล้านบาท
มีราคาสินค้าในถุงเหมือนกับถุงยังชีพ
ที่ ปภ.จัดซื้อจาก หจก.เอื้อธนพัฒน์ 40,000 ถุง วงเงิน 32 ล้านบาท
กระทั่งเศษสตางค์ของราคาสินค้าก็เหมือนกัน
เพราะการจัดหาถุงยังชีพต้องทำด้วยความเร่งรีบ
ผู้บริหารของ ปภ.จึงเรียกผมและผู้บริหารของร้านเอื้อธนพัฒน์
ที่เคยเสนองานให้ ปภ.พิจารณาตลอดหลายปีที่ผ่านมา
มาพูดคุยว่าต้องการถุงยังชีพ 100,000 ถุง
จะแบ่งกันไปดำเนินการได้บริษัทละเท่าไร ที่สุดก็ได้สัดส่วนตามที่ ปภ.จัดซื้อ
ขอยืนยันว่าราคาสินค้าในถุงยังชีพไม่ได้แพงกว่าราคาตามท้องตลาด
อย่างปลากระป๋องราคา 16.25 บาท หรือปลาราดพริกสามรส 19.50 บาท
ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นซื้อราคานี้ไม่ได้
นี่ยังไม่รวมค่าบรรจุ ค่าขนย้าย
แถมยังต้องทำถุงตีตราสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.)
ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกหลายหมื่นบาท
ส่วนที่มีการกล่าวหาว่าบริษัทจัดหาเรือแพงนั้น
ในสมัยรัฐบาลชุดที่แล้ว (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ)
ก็จัดซื้อเรือจากบริษัทผมไปช่วยผู้ประสบอุทกภัยเมื่อปี 2553 ถึง 270 ลำ
ในอัตราราคาเดียวกันคือ
เรือไฟเบอร์กลาสขนาด 5.4x2 เมตร ราคา 250,000 บาท
เรือไฟเบอร์กลาสขนาด 5.2x1.85 เมตร ราคา 198,000 บาท
สามารถไปตรวจสอบย้อนหลังดูได้
ขณะที่การจัดซื้อสุขามือถือกระดาษ 30,000 ชุด วงเงิน 7.35 ล้านบาท
แม้บริษัทของผมจะไม่ได้ผลิตเอง แต่ก็ไปหาคนรู้จักที่ทำอยู่ส่งมาให้
โดยสาเหตุที่สุขามือถือกระดาษของผมมีราคาชุดละ 245 บาท
เพราะใช้กระดาษรังผึ้ง ต่างกับเครือซิเมนต์ไทยที่ใช้แค่กระดาษลูกฟูก
เพราะมีความทนทานมากกว่า
ที่สำคัญเครือซิเมนต์ไทยก็ไม่ได้ขายสุขากระดาษชุดละ 111 บาทอย่างที่บอก
เพราะที่เครือซิเมนต์ไทยมาเสนอราคาต่อ ปภ.มีราคาชุดละ 180 บาท
ที่สำคัญเมื่อถึงเวลาจะจัดซื้อ ตัวแทนเครือซิเมนต์ไทยกลับไม่มาปรากฏตัว
ทำให้ ปภ.มอบหมายให้ผมดำเนินการแทน
"ทั้งนี้ สาเหตุที่ให้บริษัทเติมฯ เป็นผู้ขายสุขากระดาษแทนที่จะเป็น หจก.พูนเจริญฯ
ทั้งที่มีที่ตั้งอยู่ในอาคารหลังเดียวกัน
ก็เพราะต้องการให้บริษัทเติมฯมีผลประกอบการใส่ไว้ในรายงานประจำปี
เป็นการกระจายรายได้ของบริษัทในเครือเดียวกัน
เรื่องนี้ถือเป็นเหตุผลทางธุรกิจ ไม่มีอะไรผิดปกติ"
ส่วนการที่บริษัทของผมได้มาจัดหาถุงยังชีพ เรือ และสุขามือถือกระดาษ
ให้กับ ปภ.ทั้งที่ไม่เคยประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องเลย
ก็เพราะการจัดหาถุงยังชีพ เรือ และสุขากระดาษไม่จำเป็นต้องใช้ความชำนาญเฉพาะด้าน
ใช้เพียงกำลังคนเท่านั้น ซึ่งบริษัทของผมก็มีอยู่
ผมได้ฟังการอภิปรายของฝ่ายค้านอยู่ตลอด
พบว่าข้อมูลหลายอย่างที่ ส.ส.ฝ่ายค้านหยิบมาอภิปรายไม่ตรงกับความจริง
เป็นไปได้ว่ามีคนขี้อิจฉาที่มาทีหลัง ทำให้ไม่ได้งาน ส่งข้อมูลดังกล่าวไปให้
จึงอยากขอความเป็นธรรมกับผมบ้าง เพราะอยู่นอกสภา ไม่มีโอกาสได้ชี้แจง
"ผมยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นการส่วนตัว
กระทั่งคนใกล้ชิดนายยงยุทธก็ไม่เคยรู้จักแม้แต่คนเดียว
แต่ยอมรับว่ารู้จักข้าราชการใน ปภ.หลายคน
เพราะเคยมาเสนองานให้หลายครั้ง จนทำให้คุ้นเคยกับคนใน ปภ. กระทั่งเด็กส่งของก็ยังรู้จัก"
มติชน
http://www.prachatalk.com/board/สังคม-การเมือง/ผู้บริหาร-พูนเจริญพาณิชย์-แฉกลับ-ปชป-เป็นรัฐบาลก็ซื้อจากร้านและราคาเดียวกัน-ทำ
http://www.go6tv.com/2011/11/blog-post_9698.html
นายบุญเติม โนนจันทร์
ผู้บริหาร′หจก.พูนเจริญพาณิชย์′
และบริษัท เติมคอร์ปอเรชั่น (2008) จำกัด
กรณีเรื่องถุงยังชีพที่ ปภ.จัดซื้อจาก หจก.พูนเจริญฯ 60,000 ถุง วงเงิน 48 ล้านบาท
มีราคาสินค้าในถุงเหมือนกับถุงยังชีพ
ที่ ปภ.จัดซื้อจาก หจก.เอื้อธนพัฒน์ 40,000 ถุง วงเงิน 32 ล้านบาท
กระทั่งเศษสตางค์ของราคาสินค้าก็เหมือนกัน
เพราะการจัดหาถุงยังชีพต้องทำด้วยความเร่งรีบ
ผู้บริหารของ ปภ.จึงเรียกผมและผู้บริหารของร้านเอื้อธนพัฒน์
ที่เคยเสนองานให้ ปภ.พิจารณาตลอดหลายปีที่ผ่านมา
มาพูดคุยว่าต้องการถุงยังชีพ 100,000 ถุง
จะแบ่งกันไปดำเนินการได้บริษัทละเท่าไร ที่สุดก็ได้สัดส่วนตามที่ ปภ.จัดซื้อ
ขอยืนยันว่าราคาสินค้าในถุงยังชีพไม่ได้แพงกว่าราคาตามท้องตลาด
อย่างปลากระป๋องราคา 16.25 บาท หรือปลาราดพริกสามรส 19.50 บาท
ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นซื้อราคานี้ไม่ได้
นี่ยังไม่รวมค่าบรรจุ ค่าขนย้าย
แถมยังต้องทำถุงตีตราสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.)
ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกหลายหมื่นบาท
ส่วนที่มีการกล่าวหาว่าบริษัทจัดหาเรือแพงนั้น
ในสมัยรัฐบาลชุดที่แล้ว (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ)
ก็จัดซื้อเรือจากบริษัทผมไปช่วยผู้ประสบอุทกภัยเมื่อปี 2553 ถึง 270 ลำ
ในอัตราราคาเดียวกันคือ
เรือไฟเบอร์กลาสขนาด 5.4x2 เมตร ราคา 250,000 บาท
เรือไฟเบอร์กลาสขนาด 5.2x1.85 เมตร ราคา 198,000 บาท
สามารถไปตรวจสอบย้อนหลังดูได้
ขณะที่การจัดซื้อสุขามือถือกระดาษ 30,000 ชุด วงเงิน 7.35 ล้านบาท
แม้บริษัทของผมจะไม่ได้ผลิตเอง แต่ก็ไปหาคนรู้จักที่ทำอยู่ส่งมาให้
โดยสาเหตุที่สุขามือถือกระดาษของผมมีราคาชุดละ 245 บาท
เพราะใช้กระดาษรังผึ้ง ต่างกับเครือซิเมนต์ไทยที่ใช้แค่กระดาษลูกฟูก
เพราะมีความทนทานมากกว่า
ที่สำคัญเครือซิเมนต์ไทยก็ไม่ได้ขายสุขากระดาษชุดละ 111 บาทอย่างที่บอก
เพราะที่เครือซิเมนต์ไทยมาเสนอราคาต่อ ปภ.มีราคาชุดละ 180 บาท
ที่สำคัญเมื่อถึงเวลาจะจัดซื้อ ตัวแทนเครือซิเมนต์ไทยกลับไม่มาปรากฏตัว
ทำให้ ปภ.มอบหมายให้ผมดำเนินการแทน
"ทั้งนี้ สาเหตุที่ให้บริษัทเติมฯ เป็นผู้ขายสุขากระดาษแทนที่จะเป็น หจก.พูนเจริญฯ
ทั้งที่มีที่ตั้งอยู่ในอาคารหลังเดียวกัน
ก็เพราะต้องการให้บริษัทเติมฯมีผลประกอบการใส่ไว้ในรายงานประจำปี
เป็นการกระจายรายได้ของบริษัทในเครือเดียวกัน
เรื่องนี้ถือเป็นเหตุผลทางธุรกิจ ไม่มีอะไรผิดปกติ"
ส่วนการที่บริษัทของผมได้มาจัดหาถุงยังชีพ เรือ และสุขามือถือกระดาษ
ให้กับ ปภ.ทั้งที่ไม่เคยประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องเลย
ก็เพราะการจัดหาถุงยังชีพ เรือ และสุขากระดาษไม่จำเป็นต้องใช้ความชำนาญเฉพาะด้าน
ใช้เพียงกำลังคนเท่านั้น ซึ่งบริษัทของผมก็มีอยู่
ผมได้ฟังการอภิปรายของฝ่ายค้านอยู่ตลอด
พบว่าข้อมูลหลายอย่างที่ ส.ส.ฝ่ายค้านหยิบมาอภิปรายไม่ตรงกับความจริง
เป็นไปได้ว่ามีคนขี้อิจฉาที่มาทีหลัง ทำให้ไม่ได้งาน ส่งข้อมูลดังกล่าวไปให้
จึงอยากขอความเป็นธรรมกับผมบ้าง เพราะอยู่นอกสภา ไม่มีโอกาสได้ชี้แจง
"ผมยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นการส่วนตัว
กระทั่งคนใกล้ชิดนายยงยุทธก็ไม่เคยรู้จักแม้แต่คนเดียว
แต่ยอมรับว่ารู้จักข้าราชการใน ปภ.หลายคน
เพราะเคยมาเสนองานให้หลายครั้ง จนทำให้คุ้นเคยกับคนใน ปภ. กระทั่งเด็กส่งของก็ยังรู้จัก"
มติชน
http://www.prachatalk.com/board/สังคม-การเมือง/ผู้บริหาร-พูนเจริญพาณิชย์-แฉกลับ-ปชป-เป็นรัฐบาลก็ซื้อจากร้านและราคาเดียวกัน-ทำ
http://www.go6tv.com/2011/11/blog-post_9698.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น